กรมวิชาการเกษตรอ่วม!ชดใช้ CP 1,700 ล้าน คดี ยางล้านไร่

วันนี้( 14 ก.พ.) นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย(สยยท.) เปิดเผยถึงกรณีศาลฎีกาตัดสินกรมวิชาการเกษตรจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัทเจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด กว่า 1,700 ล้านบาท สืบเนื่องจากกรณีที่กรมวิชาการเกษตรได้ว่าจ้างบริษัทเจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด เป็นผู้ผลิตและส่งมอบกล้ายางในโครงการส่งเสริมการปลูกยางพารา 1 ล้านไร่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยต้องใช้กล้ายางถึง 90 ล้านต้น ระยะเวลาของโครงการ 3 ปี(2547-2549)
 

รัฐบาลจึงได้ออกประกาศการประกวดราคาให้บริษัทเอกชนยื่นประมูล ซึ่งปรากฏว่าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด ในเครือซีพี ชนะการประมูล โดยทำสัญญาจัดหาต้นกล้าจำนวน 90 ล้านต้น ในวงเงิน 1,397 ล้านบาท เพื่อส่งมอบให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการปลูกภายในระยะเวลา 3 ปี (2547-2549) โดยตามสัญญาระบุว่าในปีแรกซีพีต้องส่งมอบกล้าพันธุ์ยางให้ได้ 20% หรือประมาณ 18 ล้านต้น ปี 2548 จำนวน 30% ประมาณ 27 ล้านต้น และปี 2549 ซีพีต้องส่งมอบให้ได้ 50% ประมาณ 45 ล้านต้น

ซึ่งในช่วงปี 2547-2548 บริษัทมีปัญหาในการจัดหาต้นกล้ายางไม่เพียงพอ จึงไปกว้านซื้อแล้วนำมาแจกจ่ายให้เกษตรกร ปรากฏว่าต้นกล้ายางไม่ได้คุณภาพ ตายจำนวนมาก และบางส่วนก็ออกดอกจากเป็นยางตาสอย ให้น้ำยางน้อย ต่อมาปี 2549 ซีพีไม่สามารถส่งมอบกล้ายางได้ทันกำหนด 45 ล้านต้น สร้างความเดือดร้อนซ้ำให้กับเกษตรกรที่จัดเตรียมพื้นที่รอลงกล้า โดยให้เหตุผลว่ามีสาเหตุจากภัยธรรมชาติ จนทำยางชำถุงไม่ได้ จึงแจ้งให้กรมวิชาการเกษตรรับทราบและขอต่อสัญญาการส่งมอบพร้อมจะจ่ายค่าเสียหายตามสัญญา

ต่อมาเมื่อกรมวิชาการเกษตรได้หารือกับกระทรวงเกษตรฯ แล้ว ได้ทำหนังสือแจ้งให้บริษัทเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2549 ว่า ยินดีจะต่อสัญญาให้บริษัทจึงเร่งผลิตยางชำถุง ที่ต้องเริ่มจากการจ้างเกษตรกรเก็บเมล็ดพันธุ์ชำถุงยาง จนถึงการติดตา ใช้ระยะเวลาประมาณ 8 เดือน และบริษัทมีกล้ายางพร้อมจะส่งมอบแล้ว แต่กรมวิชาการเกษตรกลับมีหนังสือว่าขอยกเลิกโครงการนี้ และอ้างว่าไม่เคยมีหนังสือเพื่อขอต่อสัญญา จึงเป็นที่มาของการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกว่า 1,700 ล้านบาทจากกรมวิชาการเกษตร

Cr.springnews