เคาท์ดาวน์ปีใหม่ ห้าม!! จุดประทัด-พลุเด็ดขาด


เคาท์ดาวน์ปีใหม่ ห้าม!! จุดประทัด-พลุเด็ดขาด






วันที่ 26 ธันวาคม 2560 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย รอง ผบก.น.1-9 ที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และ รอง ผบก.สปพ. ร่วมประชุมกำหนดมาตรการการ ป้องกันปรามปราบอาชญากรรม ในห้วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2561 ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น 

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า บช.น. ได้วางมาตรการดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมีกิจกรรมแรกในวันที่ 27 ธ.ค. เวลา 16.30 น. จะมีการจัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดินรณรงค์ตามโครงการประชารัฐร่วมใจดูแลความปลอดภัยบ้านพี่น้องประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 โดยในกิจกรรมจะมีการเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการร่วมกันดูแลบ้าน ไม่ใช่มอบให้ตำรวจดูแลอย่างเดียว เช่นติดตั้งกล้องซีซี.ทีวี ภายในบ้าน ล็อคประตูก่อนออกจากบ้าน ระหว่างเดินขบวนจะมีการประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนห้ามจุดพลุ ห้ามปล่อยโคมลอย ไม่ยิงปืนขึ้นฟ้า ไม่แข่งรถในทาง และไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปในสถานบริการ ทั้งนี้ หากมีเหตุไม่ปลอดภัย หรือพบวัตถุต้องสงสัย สามารถโทรแจ้งตำรวจได้ที่เบอร์ 191 และโปรแกรม police i lert u 



พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีมาตรการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ปล่อยแถวไปเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีผลการจับกุมคดีอาวุธปืนได้ 5 ราย จับยาเสพติดได้ 25,000 เม็ด และค้าประเวณีอีก 75 ราย รวมถึงสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ออกตรวจในจุดที่ล่อแหลม ที่เสี่ยงจะเกิดอาชญากรรม เพื่อบูระณาการร่วมกับ สน.ท้องที่ และตั้งจุดตรวจเข้มตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 60-3 ม.ค. 61 โดยแต่ละจุดตรวจจะต้องนำโปรแกรม PDC : Police data center ซึ่งเป็นโปรแกรมที่รวมหมายจับทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของด่าน ส่วนมาตรการสุดท้ายเนื่องจากกรุงเทพมหานคร มีจุดจัดเคาท์ดาวน์ 4 จุด คือ เซ็นทรัลเวิลด์ เอเชียทีค ถนนข้าวสาร และซีดีซี แต่ละที่จะมีประชาชนมาร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งในส่วนนี้จะให้ฝ่ายสืบสวนปะปนไปในงานด้วย เพื่อดูแลเกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์ 



“ในกรุงเทพมหานคร มีวัดที่เข้าร่วมโครงการสวดมนต์ข้ามปี 143 แห่ง คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 51,000 คน ได้สั่งการให้ สน.แต่ละท้องที่ ไปตั้ง ศปก.ส่วนหน้า รักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ส่วนสิ่งที่เป็นห่วง คือ เรื่องสถานบริการที่ผู้ที่เข้าไปเที่ยวอาจจะมีการแอบจุดปะทัดเล็กๆ เข้าไปจุด ทำให้เกิดประกายไฟ ตนไม่อยากให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สิน จึงฝากประชาสัมพันธ์ด้วยว่าช่วงเคาท์ดาวน์อย่าจุดประทัด หรือพลุโดยเด็ดขาด หากจุดแล้วไปกระทบสิทธิของผู้อื่นก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท” พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าว

เครดิต : bangkokbiznews

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Food Blog Theme by OlympusThemes.