“บิ๊กแป๊ะ” สั่งดำเนินคดีคนเอี่ยวพา “อดีตพระพรหมเมธี” หนี

อัยการสูงสุดยืนยันไม่ได้ส่งพนักงานอัยการร่วมเดินทางไปรับตัวอดีตพระพรหมเมธี ที่ประเทศเยอรมัน เพราะไม่เข้าเงื่อนไขเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งดำเนินคดี 5 บุคคลที่ช่วยพาหนี

ความคืบหน้าในการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินทอนวัด ล่าสุดตำรวจไทยยังอยู่ระหว่างการติดต่อประสานงานกับทางการประเทศเยอรมัน เพื่อขอรับตัวอดีตพระพรหมเมธี มาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทีมสืบสวนเดินทางไปติดต่อประสานงานด้วยตนเอง โดยคาดว่าจะได้ตัวอดีตพระพรหมเมธี กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยไม่เกินวันที่ 6 มิถุนายน ที่จะถึงนี้

นอกจากนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้สั่งการให้ตำรวจดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ช่วยอดีตพระพรหมเมธี หลบหนี โดยตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับทั้งหมด 5 ราย เป็นคนไทย 3 ราย และเป็นชาว สปป.ลาว 2 ราย โดย 1 ใน 5 รายนี้ เป็นสีกาคนสนิทของอดีตพระพรหมเมธี คือ สีกา จ. ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ถือหุ้นใหญ่อันดับ 8 ในบริษัทธุรกิจเหมืองแร่ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าการประสานงานขอตัวอดีตพระพรหมเมธี ยังไม่เข้าเงื่อนไข ตามขั้นตอนของกฎหมายตามพ.ร.บ.การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ที่ระบุว่าเมื่อตำรวจในฐานะผู้ติดตามตัวคนร้ายเมื่อทราบตำแหน่งที่อยู่ของคนร้ายแน่ชัดแล้ว ต้องส่งเรื่องมาให้อัยการสูงสุด พิจารณาในฐานนะผู้ประสานงานกลาง เพื่อทำการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลส่งให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการติดต่อประสานการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

เพราะกรณีของอดีตพระพรหมเมธี เป็นการประสานความร่วมมือของตำรวจไทย กับทางการเยอรมนี เพื่อขอไปรับตัว อดีตพระพรหมเมธี เข้าประเทศ เพราะเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ของไทย ทางการเยอรมัน จึงเพิกถอนวีซ่า อดีตพระพรหมเมธี และ เตรียมผลักดันกลับประเทศ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าว ไม่ใช่ขั้นตอนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน อัยการจึงไม่ต้องร่วมเดินทางไปกับตำรวจด้วย

Cr.Springnews