วันนี้ (28 พ.ค.61) พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. แถลงหลังทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ จากการปฏิบัติงานของสายด่วน 1710 ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสายด่วน 1155 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงและโอนไปยังบัญชีของกลุ่มคนร้ายแล้วระงับไม่ให้สามารถถอนเงินออกไป และได้นำเงินคืนให้กับผู้เสียหาย จำนวน 5 ราย รวมเป็นเงินจำนวน 467,359.32 บาท ได้แก่
ผู้เสียหายในคดีของ สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ถูกหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน จำนวน 57,000 บาท ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ และศาลสั่งให้คืนเงินแก่ผู้เสียหาย จำนวน 57,000 บาท ผู้เสียหายในคดีของ สน.บางเขน ถูกหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน จำนวน 425,000 บาท ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายไว้ได้ จำนวน 49,000 บาท ผู้เสียหายในคดีของ สภ.เมืองนนทบุรี ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน จำนวน 47,600 บาท ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายไว้ได้ จำนวน 27,600 บาท ผู้เสียหายในคดีของ สภ.เมืองนนทบุรี ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน จำนวน 3,000,000 บาท ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่เคยอายัดเงินของผู้เสียหายและคืนเงินให้ผู้เสียหาย จำนวน 699,281 บาท และสามารถยึดเงินของผู้เสียหายจากผู้ต้องหาไว้ได้ จำนวน 332,000 บาท ผู้เสียหายในคดีของ สน.สายไหม ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้ายรวมเป็นเงิน จำนวน 99,984 บาท ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายไว้ได้ จำนวน 1,759.32 บาท
จากการสอบถามผู้เสียหายที่สามารถทำการอายัดเงินได้ทัน ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการตั้งสติ คิดทบทวน และทราบว่าถูกคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวง เฉลี่ยแล้วใช้เวลาดังนี้ อายัดเต็มจำนวน ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที อายัดได้บางส่วนมากกว่าครึ่งของจำนวนที่ถูกหลอก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง อายัดได้บางส่วนน้อยกว่าครึ่งของจำนวนที่ถูกหลอก ใช้เวลาตั้งแต่ 1 ชั่วโมง ขึ้นไป
โดยใช้ช่องทางติดต่อการอายัดเงิน ผ่านช่องทางสายด่วน 1155, 1710 และ ทางธนาคาร สรุปจากการผลการปฏิบัติงานในการอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงไปยังบัญชีคนร้าย สามารถอายัดเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายได้ จำนวน 106 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 19,025,167.17 บาท
จากสถิติการรับแจ้งเหตุของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รับแจ้งเหตุตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.60 ถึงวันที่ 27 พ.ค.61 จำนวน 442 คดี มูลค่าความเสียหาย 231,829,207.92 บาท
กรณียังมีผู้เสียหายที่ถูกเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง แต่ยังไม่ได้ไปร้องทุกข์ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนท่านใดที่ได้รับความเสียหายจากเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงจนสูญเสียทรัพย์สิน ให้รีบแจ้งมาที่
ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1155 ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สายด่วน 1710 ในกรณีที่รู้ตัวว่าถูกหลอกลวง ขอให้แจ้งสายด่วน 1155 และ 1710 โดยเร็วที่สุด
Cr.Springnews
สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง