พล.อ.อ. จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานใน พิธีบรรจุประจำการเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่และฝึก แบบที่ 2 T-50TH จำนวน 4 เครื่อง เข้าเป็นเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ 2 ประจำการในฝูงบิน 401 กองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยมี H.E.Mr.Noh Kwang-il (นาย โน ควัง อิล) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย พร้อม นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ เข้าร่วมงาน
โครงการดังกล่าวกองทัพอากาศ ได้จัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น เพื่อนำมาทดแทนเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ 1 ( L-39 ZA/ART ) ที่ใช้ในการฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้นของกองทัพอากาศมาตั้งแต่ปี 2537 ซึ่งปัจจุบันได้ทยอยปลดประจำการ เนื่องจากไม่คุ้มค่าในการดูแลรักษา และมีเทคโนโลยีไม่ทันสมัย
ซึ่งกองทัพอากาศได้พิจารณาจัดหา จำนวน 12 เครื่อง จากบริษัท Korea Aerospace Industries สาธารณรัฐเกาหลี เป็นโครงการผูกพัน ใช้งบประมาณเสริมสร้างกำลัง ของกองทัพอากาศ ที่ได้รับในแต่ละปี โดยแบ่งการส่งมอบเครื่องบินพร้อมอะไหล่ และอุปกรณ์เครื่องมือที่จำเป็น เป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง และระยะที่ 2 จำนวน 8 เครื่อง
สำหรับระยะที่ 1 ได้ลงนามในสัญญาเมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2558 ใช้ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ปี 2558-2561 โดย เครื่องบิน 2 เครื่องแรก ได้มาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2561 และอีก 2 เครื่อง มาถึงกองบิน 4 เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2561 โดยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับขั้นสุดท้าย ณ กองบิน 4 เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2561
ส่วนการพัฒนากำลังพล กองทัพอากาศได้ส่งนักบิน จำนวน 6 คน เข้ารับการฝึกบินกับเครื่องบินรุ่นดังกล่าวที่ สาธารณรัฐเกาหลี ขณะนี้ได้สำเร็จหลักสูตรครูการบิน และนักบินลองเครื่องเรียบร้อยแล้ว ผลการฝึกอบรมอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม พร้อมปฏิบัติภารกิจ
สำหรับขีดความสามารถของเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้นแบบ T-50TH นั้นถือว่ามีเทคโนโลยีระบบการฝึกนักบินขับไล่ที่ทันสมัย คือ ระบบ Embedded Tactical Training System (ETTS) ซึ่งนักบินสามารถทำการฝึกบินได้อย่างเสมือนจริงในทุกสภาพอากาศ ซึ่งการใช้ระบบเทคโนโลยีดังกล่าวจะทำให้เกิดความคุ้มค่า และสามารถประหยัดงบประมาณในการฝึกบิน
นอกจากนี้ยังสามารถปฏิบัติภารกิจทั้งการฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น และ ภารกิจการรบจริง รวมทั้งตอบสนองการปฏิบัติภารกิจทั้งกิจเฉพาะหลัก คือ การฝึกนักบินขับไล่/โจมตีขั้นต้น และกิจเฉพาะรอง ได้แก่ การโจมตีทางอากาศ และการค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบ และยังสามารถติดตั้ง ระบบอาวุธ ,ระบบเรดาร์ที่ทันสมัย และรองรับระบบอาวุธที่มีระยะไกลเกินสายตาได้
Cr.Springnews
สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง