ผู้สื่อข่าวรายจากกรณี นายฐนุกร เหลืองใหม่ หรือแผน ไปร้องสภาทนายความ ให้ตรวจสอบมรรยาทของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โดยมี นายพัฒนา จาติเกตุ อุปนายกสภาทนายความฝ่ายกิจการพิเศษ เป็นผู้รับเรื่องไว้
นายพัฒนา กล่าวว่า นายษิทรา มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายเรื่อง และเคยได้รับการแจ้งจากศาลเกี่ยวการแต่งกายที่ไม่สุภาพ เช่น สวมเสื้อยืดคอกลม กางเกงยืนส์บริเวณศาลของนายษิทธา รวมถึงการพาลูกความออกสื่อ และพูดข่มขู่คู่กรณี ซึ่งต้องถูกสอบสวนชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะการออกสื่อบ่อยๆ เป็นการสร้างราคาให้ตัวเองเพื่อให้มีงาน ทำให้ทนายความท่านอื่นได้รับผลกระทบ
ล่าสุด นายษิทรา โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ลบชื่อทนายษิทราออกจากการเป็นทนาย อย่างที่ทราบกัน เสื้อทีมทนายประชาชน ที่ผมใส่ทำงานและช่วยเหลือคนมาตลอด วันนี้จะกลายเป็นเหตุผลของคนบางกลุ่มที่จะใช้เพื่อลบผมออกจากอาชีพทนายความ
ผมไม่รู้หรอกนะว่าเสื้อตัวที่ผมใส่มันสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้ใครหนักหนา แต่ทั้งหมดในการทำงานมา เสื้อตัวนี้สร้างรอยยิ้มให้ผู้บริสุทธิ์มาไม่น้อย ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา คนรอบข้างผมภูมิใจ ผมมีโอกาสได้เป็นผู้ริเริ่มการทำ โครงการพี่สอนน้อง และได้ให้ความรู้เยาวชนมาแล้วกว่า 2 แสนคนทั่วประเทศ
หากวันนี้ผมจะถูกลบชื่อออกเพียงเพราะมีคนไม่ชื่นชอบเสื้อของผม ถ้าสภาทนายความจะมองว่าเสื้อของผมผิดมรรยาททนายผม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็พร้อมจะน้อมรับ ผมก็ยังคงภูมิใจ และไม่ว่าจะมีหัวโขนนำหน้าชื่อว่าอะไร ผมสัญญากับคนไทยว่า จะยังทำทุกอย่างตามสถานะเพื่อความเป็นธรรมให้มีอยู่ในสังคมไทย”
สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง