“น้องแบม” เผยถูกอาจารย์ทุบหลัง สั่งกราบเท้าคนผิด


“น้องแบม” เผยถูกอาจารย์ทุบหลัง สั่งกราบเท้าคนผิด






‘น้องแบม’ นิสิต มมส. เผยพฤติกรรมอาจารย์ หลังทราบเรื่องทุจริตเงินคนจน กลับถูกสั่งให้กราบเท้าคนทำผิด น้อยใจอาจารย์หาว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ไม่เคยช่วยอะไร ซ้ำถูกหัวหน้าภาคทุบหลังอีก

ความคืบหน้ากรณี การทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือ น้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) เป็นผู้ออกมาเปิดเผย จนนำไปสู่การสอบสวนข้อเท็จจริงจาก คสช.และ ป.ป.ท.จนพบมูลความผิด และขยายผลไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ ขณะที่ สภาคณาจารย์ มมส. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีที่อาจารย์ผ็รับผิดชอบนักศึกษาในหลักสูตร ไม่ออกมาปกป้อง หรือทำหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบ นั้น



วันที่ 5 มี.ค.61 วานนี้ (4 มี.ค.) น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือ น้องแบม ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้ส่งเอกสารหลักฐานทั้งหมดให้สภาคณาจารย์ มมส. และคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่แต่งตั้งขึ้นโดยสภามหาวิทยาลัยมหาสารคามแล้ว โดยส่วนตัวมั่นใจว่าคณะกรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ส่วนด้านการเรียนของตนขณะนี้เข้าสู่ช่วงของการทำวิจัย ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการสำเร็จการศึกษา ซึ่งยอมรับว่า ช้ากว่าเพื่อนมาก เพราะอาจารย์สั่งให้เปลี่ยนหัวข้อการทำวิจัยทำให้ต้องทำใหม่ทั้งหมด จึงต้องมุ่งเน้นไปที่การเรียนเพื่อให้สำเร็จการศึกษาให้ได้ภายในเทอมนี้

ส่วนด้านการให้ความร่วมมือกับ คสช. และ ป.ป.ท. ในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก็ทำควบคู่ไปด้วย ทุกครั้งที่มีการเรียกสอบปากคำก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง คอยรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
น้องแบม กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้มีคนมองตนเองในหลายมุม โดยเฉพาะในคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม บางคนก็มองว่าเป็นต้นเหตุจนมีเรื่องต่างๆ แต่ส่วนใหญ่ให้กำลังใจว่าตนเองทำถูกต้องแล้ว เพราะสิ่งที่ไม่ถูกต้องและผิดกฎหมาย ผู้ที่กระทำก็ควรที่จะได้รับโทษ และเรื่องที่เกิดขึ้นตนเองได้นำข้อมูลมาแจ้งกับอาจารย์แล้ว ตั้งแต่ที่รู้ว่าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ทุจริต แต่อาจารย์กลับบอกว่า ตนนั้นเป็น “เด็กเลี้ยงแกะ” และเมื่ออาจารย์ได้ไปพบกับเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ก็ไม่รับฟังนักศึกษา สั่งให้ตนกราบเท้าเจ้าหน้าที่ ที่ทำผิดเพื่อเป็นการขอโทษ และให้เรื่องจบลงไป



น.ส.ปณิดา กล่าวต่อว่า การสอบสวนข้อเท็จจริงตามอำนาจหน้าที่ของ คสช., ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ ก็ดำเนินการไป ในขณะนี้การสอบสวนที่แต่งตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของ มหาวิทยาลัยฯ ในประเด็นนี้ตนเองมั่นใจในคณะกรรมการทุกคนที่คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ ได้ไว้ใจได้แต่งตั้งขึ้น เพื่อหาคำตอบและนำเสนอในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นข้อเท็จจริง เพื่อแจ้งให้กับคณาจารย์ นิสิต รวมไปถึงบุคลากรของมหาวิทยาลัยฯ ได้รับทราบ โดยมั่นใจว่า สภาคณาจารย์ และคณะกรรมการที่ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ จะดำเนินการอย่างถูกต้อง ชัดเจน โปร่งใส เป็นธรรม จนนำไปสู่การหาคำตอบต่อสาธารณชนได้รับทราบ และที่สำคัญคือการกู้ศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัยฯ สถาบันการศึกษาที่ตนเองรักอีกด้วย.

Cr.Springnews

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Food Blog Theme by OlympusThemes.