สารภาพแล้ว!! “เมียโหด” ร่วมมือ “กิ๊ก” วางแผนฆ่าสามีคนขับรถตู้ อ้างสุดทนถูกทำร้ายบ่อยครั้ง


สารภาพแล้ว!! “เมียโหด” ร่วมมือ “กิ๊ก” วางแผนฆ่าสามีคนขับรถตู้ อ้างสุดทนถูกทำร้ายบ่อยครั้ง






 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า วันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2561) คดีที่ นางสาววาทิตา บุญต่อม อายุ 33 ปี ร่วมกับนายบันลือ อู่บุญมา อายุ 33 ปี กิ๊กหนุ่ม วางแผนฆ่านายศุภกร ยาวิชัยย์ อายุ 45 ปี คนขับรถตู้เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ทางเข้าลานจอดรถ เอสอาร์คอนโดมิเนียม ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวนายบันลือ มือมีดที่ลงมือสังหารนายศุภกรได้ หลังหลบหนีไปซ่อนตัวที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลออกหมายจับนางสาววาทิตา บุญ ซึ่งเป็นผู้วางแผนและบางการฆ่านายศุภกรสามี โดยจับกุมตัวได้ภายในงานศพของนายศุภกร ที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา



สืบเนื่องจากวานนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2561) เจ้าหน้าที่นำตัวนางสาววาทิตา ออกจากห้องคุมขัง เพื่อให้ พ.ต.ท.สมเด่น แดงเครื่อง สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง สอบปากคำโดยมีทนายความอาสาเข้าร่วมการสอบปากคำในครั้งนี้ด้วย เพราะนางสาววาทิตา ถูกตั้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ซึ่งโทษสูงสุดคือประหารชีวิต ขณะที่ นางสาววาทิตายังคงมีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ยอมตอบคำถามสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามการสอบสวน นางสาววาทิตา ยอมรับสารภาพแล้วว่า ได้ร่วมกับนายบรรลือวางแผนฆ่านายศุภกรสามีจริง โดยให้นายบรรลือ ซึ่งเป็นเพื่อนชายที่แอบคบหากันฉันชู้สาวเป็นผู้ลงมือฆ่า เนื่องจากครอบครัวมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้งและนายศุภกรมักลงมือทำร้ายร่ากายเป็นประจำ ตนเองพยายามขอหย่าหลายครั้ง แต่นายศุภกรไม่ยอมและยังข่มขู่จะเอาชีวิตด้วย



แต่ล่าสุดหลังกลับมาพบกับนายบันลืออดีตคนรักเก่าที่เคยคบหากันสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงของ จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง นางสาววาทิตาได้อ้างกับนายบันลือว่าประจำเดือนไม่มา 2 – 3 เดือนแล้ว จึงทำให้ทั้งสองอยากใช้ชีวิตร่วมกัน แต่มีอุปสรรคคือนายศุภกรไม่ยอมหย่า ทำให้ต้องตัดสินใจวางแผนฆ่า ขณะเดียวกันระหว่างที่นางสาววาทิตาถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง ยังไม่มีญาติมาติดต่อขอเข้าเยี่ยมแต่อย่างใด เนื่องจากบิดาและมารดาของนางสาววาทิตาเป็นชาวลาว โดยวันนี้ ( 28 ก.พ. ) พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขัง

เครดิต : Springnews

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Food Blog Theme by OlympusThemes.