“พี่ตูน” มอบ 1,300 ล้านจากก้าวคนละก้าว ให้ 11 รพ.ทั่วประเทศ และอัพเดทสุขภาพล่าสุด (มีคลิป)

นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม และทีมงานก้าวคนละก้าวได้มอบเงินบริจาคในโครงการพก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ จำนวน 1,300 กว่าล้านบาทให้กับ 11 โรงพยาบาล เพื่อนำไปจัดสรรซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่แต่ละโรงพยาบาลตั้งใจจัดซื้อ โดยมีพล.ต.นิมิตร สะโมทาน ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และบุคลากรแต่ละโรงพยาบาลเป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมกล่าวถึงหลักเกณฑ์ในการจัดสรรเงินบริจาค ว่าจะนับจำนวนเตียงของแต่ละโรงพยาบาลเป็นหลักในการจัดสรรไปแต่ละโรงพยาบาล 

โดยตูน ก็ได้กล่าวขอบคุณทีมงานและประชาชน และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือทุกคนได้เริ่มออกกำลังกาย ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนจะได้รับพลังงานดีๆ จากการวิ่ง ความมีวินัย การได้สร้างประโยชน์ทางใดทางหนึ่งเมื่อตนเองเป็นคนที่แข็งแรงแล้ว 

นายชายชาญ ใบมงคล ครีเอทีฟและที่ปรึกษาโครงการก้าวคนละก้าว เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการมอบเงินบริจาคก้อนแรกจากตัดยอดเงินบริจาคโครงก้าวคนละก้าวในวันที่ 31 ม.ค. 2561 จำนวนเงิน 1,300 ล้านบาท ให้ 11 โรงพยาบาลเพื่อซื้ออุปกรณ์และดำเนินโครงการในส่วนที่เร่งด่วนก่อน แต่ทั้งนี้ทางโครงจะยังไม่ปิดการรับบริจาค ประชาชนยังคงสามารถร่วมบริจาคได้เช่นเดิมทั้งผ่านบัญชีและการขายของที่ระลึกจนถึงวันที่  31 พ.ค. นี้  และนำจำนวนเงินที่ได้ไปสมทบ 11 โรงพยาบาลเช่นกัน 

นอกจากการมอบเงินบริจาคให้กับ  11 โรงพยาบาลวันนี้ยังมีการจัดกิจกรรม “ลองRUN 2018” เป็นการวิ่งระยะสั้นจำนวน  5.4 กิโลเมตร โดยเป็นมีโน๊ต อุดม เป็นครีเอทีฟและผู้ดูแลโครงการ ซึ่งเน้นสำหรับผู้ที่ไม่เคยวิ่งมาวิ่งในกิจกรรมนี้ และจะนำเงินทั้งหมดที่ได้จากกิจกรรมในวันนี้เข้าบริจาคที่รพ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี หลังขอความช่วยเหลือแบบเร่งด่วน เนื่องจากโรงพยาบาลไม้แก่นประสบปัญหาเครื่องเอกซ์เรย์ 2 เครื่องชำรุด ต้องการเงิน 4 ล้านบาทไปดำเนินการจัดซื้อ ซึ่งในวันนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมวิ่งจำนวน 2,100 คน 

บรรยากาศภายในงาน มีการจัดบูธกิจกรรมให้ร่วมมากมาย รวมถึงการขายของที่ระลึกในโครงการก้าวคนละก้าว เช่น หมวก และเสื้อ เพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสมทบทุนในโครงการ โดยก่อนงานเริ่มได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ทีมงานประชาชนที่มาร่วมก็ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายต่อไป

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *