บัตรผู้มีรายได้น้อย ปัญหาอื้อ ร้านค้ามีจำนวนจำกัด พบบางร้านราคาแพงเกินต้องควักเงินเพิ่ม


บัตรผู้มีรายได้น้อย ปัญหาอื้อ ร้านค้ามีจำนวนจำกัด พบบางร้านราคาแพงเกินต้องควักเงินเพิ่ม






 ปัญหา!!โครงการบัตรผู้มีรายได้น้อยพบร้านค้าในหมู่บ้านที่ร่วมโครงการมีจำกัดไม่เพียงพอกับคนจน-บางร้านราคาขายแพงเกินร้านอื่น เกินอัตราราคาบัตร  คนจนต้องควักเงินเพิ่ม!!!

วันนี้ 15 ต.ค.60  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี  รายงานว่า  พบบรรยากาศหลังจากที่รัฐบาลได้จัดทำ  ขึ้นทะเบียนคนจนหรือผู้มีรายได้น้อย โดยจัดให้มีการคัดเลือกและคัดสรรผู้มีรายได้น้อยที่มีอยู่จริงทั่วประเทศ จากการคัดเลือกในแต่ละจังหวัดทุกอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน มีผู้ได้รับสิทธิ์และบัตรผู้มีรายได้น้อย หรือบัตรจนคนแล้ว พบว่าผู้มีสิทธิ์ต่างพากันออกมารูดบัตรใช้สิทธิ์กันอย่างคึกคัก

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่   เทศบาลตำบลโพธิ์งาม  อำเภอประจันตคาม พบมีผู้มีบัตรออกมาใช้จ่ายรูดบัตรผู้มีรายได้น้อยกันอย่างต่อเนื่อง เพราะการใช้บัตรผู้มีรายได้น้อยหรือบัตรคนจนมีข้อจำกัดในการใช้ โดยผู้ถือบัตรจะต้องมาเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค  โดยการแข่งขันกับเพื่อนบ้านในตำบลในหมู่บ้าน  ที่มีร้านค้าที่เข้าร่วมในโครงการของรัฐบาลร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ  ที่นำของใช้ในครัวเรือนมาไว้บริการ  ซึ่งร้านดังกล่าวมีน้อย

 



หรือในบางหมู่บ้านไม่มีเลย   ต้องไปร่วมกับหมู่บ้านอื่น ของใช้บางทีอาจมีให้ไม่เพียงพอ  พบบางคนยังไม่เข้าใจยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร  ได้สอบถามเพื่อนบ้าน ผู้รู้หรือลูกหลาน  ถึงการใช้บัตรผู้มีรายได้น้อย การใช้บัตรผู้มีรายได้น้อยมีข้อจำกัดที่ว่าทุกคนที่มีบัตรนี้จะต้องใช้ในหนึ่งเดือน/ต่อหนึ่งครั้งในวงเงินไม่เกินคนละ 300 บาท

ซึ่งจะเลือกซื้อสินค้าประเภทข้าวสาร อาหารแห้ง สบู่ยาสีฟันเป็นต้น บางคนรู้ว่าจะมียอดเงินใช้บัตรในหนึ่งครั้งไม่เกิน 300บาท จะไม่เลือกซื้อข้าวสาร ข้าวสาร 1 ถุง/ถังราคาอยู่ที่ถุง/ถัง 300บาท บางร้านใหญ่ที่อาจแอบแฝงเข้าร่วมโครงการ  อ้างว่าต้นทุนซื้อข้าวมาราคา 320   ต้องขายราคา 320 บาท  จึงอาจจะไม่เป็นไปตามเงื่อนไข  ตามที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก   ซึ่งผู้ถือบัตรผู้มีรายได้น้อยจำเป็นต้องควักเงินสดเพิ่มเอง

บางคนบอกต่อว่าพื้นที่นั้นพื้นที่ถูก – แพง  จะไปที่ร้านอื่นก็ใช้บัตรนี้ไม่ได้  ต้องใช้เฉพาะในพื้นที่นั้นๆเท่านั้น ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับผู้ถือบัตรอย่างมาก  ไม่รู้ว่าทางภาครัฐจะรู้เรื่องนี้หรือไม่ ถ้ารู้จะดำเนินการแก้ไขอย่างไร?

นางสมจิตย์  ใจมั่น อายุ57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181ม.3 ต.โพธิงาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี   กล่าวว่า  “เป็นครั้งแรกที่ได้มาใช้สิทธิรูดบัตรคนจนที่ร้าน ภ.พานิช(บ้านต้น) ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม ร้านนี้จัดได้ว่าเป็นร้านที่สะดวกซื้อได้มาตรฐานระดับหนึ่ง  มีการบริการกับผู้ที่มีบัตรผู้มีรายได้น้อยถูกใจทุกคน

ร้านนี้มีของกินของใช้ในครัวเรือนทุกอย่าง   ราคาตามข้อตกลงกับทางรัฐไว้ทุกอย่าง  แถมทางร้านยังมีการจัดการเอาใจลูกค้า มีการใช้หางบัตรหรือเลขบัตรที่ทางร้านค้าจัดทำขึ้น   ทำกล่องจับสลากลุ้นชิงโชคสิ้นเดือน รางวัลที่จะได้มีมูลค่าไม่เกิน100บาท เป็นการคืนกำไรให้ผู้ที่มาใช้บริการกับทางร้าน ร้านนี้จะเคร่งครัดในการใช้บัตรนี้จริงจัง  แนะนำลูกค้าทุกคนที่มาที่ร้านทุกครั้ง มีผู้มาใช้บริการมากกว่า100คน”



ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม   ที่ในพื้นที่ในพื้นที่ ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี ร้านคุณตู่ บ้านหนองไฮ คุณประจักษ์แสงเมือง เจ้าของร้านกล่าวว่า ต้นเดือนที่ผ่านมาที่นี่มีผู้มาใช้สิทธิกันอย่างเนืองแน่นเพราะว่าที่นี่เป็นศูนย์กลางของตำบลหลายหมู่บ้าน  จึงมาเลือกใช้บัตรที่นี่คึกคักเป็นพิเศษ ซึ่งทางร้านของตนก็ทำตามกฎตามข้อตกลงระหว่างรัฐอย่างดี   จึงไม่มีปัญหา   ลูกค้า  ใครไม่เข้าใจตนก็จะให้คำแนะนำเป็นอย่างดี  ซึ่งทุกคนเข้าใจเป็นอย่างดี   

ข้าวสารที่นี่ข้าวหอมมะลิราคากลางที่หลายครอบครัวนิยมซื้อหาไปกินจะขายถุง/ถังละ 300 บาท  และลดหลั่นลงมา 190บาท    ต่ำสุดข้าวหอมมะลิตราดอกบัวร้านคุณตู่ขาย 300 บาท   แต่ยี่ห้อเดียวกัน แต่บางร้านที่เข้าร่วมโครงการผู้มีรายได้น้อยหลายคนบอกว่ามีอยู่จริงขาย320บาทตามราคาส่งทั่วไป   ทั้งที่อยู่ไม่ไกลกัน  และอยู่ในชุมชนใหญ่อีกด้วย  ทำให้เสียโอกาสหรือจ่ายเงินเพิ่มโดยใช่เหตุ   อยากฝากถึงภาครัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลช่วยมาตรวจสอบด้วยจะเป็นการดีต่อทุกฝ่าย

Cr. มานิตย์   สนับบุญ    /   ปราจีนบุรี

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Food Blog Theme by OlympusThemes.