คืบ! จับประธานอิตัลไทย ล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ

6 ก.พ 61 — นายวิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก  เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซต์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ทีวีดิจิทัลช่อง 19 ถึงกรณี เมื่อวันที่ 4 ก.พ   เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก รับแจ้ง ว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้ามตั้ง ตรวจสอบ พบว่า นักท่องเที่ยวหนึ่งในกลุ่มดังกล่าว  คือ นายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหารและ กรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ บริษัทมหาชน  พร้อมกับพบซากสัตว์และอาวุธปืนในการล่าสัตว์อีกหลายรายการ  โดยนายวิเชียร ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยรวมพบผู้ต้องหากระทำความผิดทั้งหมด 4 ราย 1 ในนั้น คือ ประธานบริหารของบริษัทอิตาเลียนไทย  ส่วนข้อหาในการกระทำความผิดนั้น เบื้องต้นแบ่งเป็น 5 ข้อหา คือ 

1. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 

2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 

3. ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 

4. ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 

5. ฐานรวมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 

นายวิเชียร  ยังกล่าวถึง ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490  ว่า ขอให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษตามฐานความผิดต่อไป

เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้ดำเนินการอย่างไรต่อผู้ต้องหาทั้งหมด นายวิเชียร เปิดเผย ว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พยายามเร่งรัดเรื่องดังกล่าวให้รวดเร็วที่สุด  เพื่อให้มีความเท่าเทียม เช่นเดียวกับกรณีอื่นๆ แต่ในวันดังกล่าว การถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าได้นั้น พบระยะเวลาล่วงเลยถึงช่วง 1 นาฬิกาของวันที่ 5 ก.พ แล้ว เนื่องจากการเดินทางมีความยากลำบากและต้องใช้เวลา  ซึ่งกระบวนการหลังจากนั้น ต้องรอให้ถึงช่วงเช้า เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบพิสูจน์ที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง โดยพบว่ายังมีของกลางอีกหลายรายการที่สามารถแจ้งข้อหาผู้ต้องหาได้เพิ่ม  เพื่อให้การสอบสวนมีความถูกต้องและเรียบร้อยมากที่สุด 

“ส่วนผู้ต้องหา รวมถึงนายเปรมชัย อยู่ในการดูแลของ จนท. ก่อนส่งตัวให้ สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี  เพียงแต่ว่าผู้ต้องหาของฝ่ายนู้น ต้องการให้มีทนาย และทนายเดินทางมาจาก กทม. ทำให้เวลาล่วงเลย  จึงส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสร็จสิ้น เมื่อช่วงเวลา 2 นาฬิกาของวันนี้ (6 ก.พ) โดยยังอยู่ในห้วงเวลาการสอบปากคำของตำรวจ ผมก็คงต้องให้ตำรวจตัดสินใจเอง ว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ “

ทั้งนี้ มีรายงานผู้ร่วมกระทำความผิดดังนี้ 

1.) นายเปรมชัย กรรณสูต เลขประจำตัวประชาชน 3-7401-00104-38-8 อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/3 ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

2.) นายยงค์ โดดเครือ เลขประจำตัวประชาชน 3-1002-00965-47-0 อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ที่ 8 ตำบลคุ้งพยอม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 

3.) นางนที เรียมแสน เลขประจำตัวประชาชน 3-3013-00007-16-0 อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งสว่าง อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา 

4.) นายธานี ทุมมาศ เลขประจำตัวประชาชน 3-7101-00393-63-1 อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ที่ 3 ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

อุปกรณ์ในการกระทำผิด
1. อาวุธปืนยาว (ปืนไรเฟิล) ยี่ห้อ STEYR-MANNLICHER-M หมายเลขตัวปืน 201820 ทะเบียนอาวุธปืน กท.2850473

2. อาวุธปืนยาวลูกซองแฝดเบอร์ 20 ยี่ห้อ AYA-AGUIRRE & ARANZABAL – MADE IN SPAIN หมายเลขตัวปืน 378 และปรากฎเลขทะเบียนอาวุธปืน ก.ท.4552202 

3.อาวุธปืนยาวขนาด .22 ยี่ห้อ CZ 452 ZKM SCOUT CZ-USA, Kansas City , US หมายเลขตัวปืน 778590

และพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองหลายรายการในที่เกิดเหตุ ทั้ง ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง  และซากเสือดำ ถูกชำแหละ และ ถลกหนัง

สุโสมณี พานทอง

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง