“สมชัย” แฉ สนช. ล็อบบี้ ปมมหรสพหาเสียง


“สมชัย” แฉ สนช. ล็อบบี้ ปมมหรสพหาเสียง






01 ก.พ.61- นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริง นิวส์ ช่อง 19 ถึงกรณีมี สนช.บางคนไปล็อบบี้ให้แก้ไขร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ประเด็นให้พรรคจัดมหรสพเพื่อการหาเสียง ว่า มีสนช.ในฝั่งผู้เสนอให้มีมหรสพหนึ่งท่านโทรศัพท์มาหาว่า จะพยายามแก้ไขประเด็นดังกล่าว ให้กลับเป็นไม่มีมหรสพ และต้องการให้ กกต. เสนอความเห็นแย้งในประเด็นดังกล่าว

“ผมเคยทักท้วงเรื่องนี้ไปตั้งแต่ก่อนลงมติ เนื่องจากกติกาที่ระบุว่า ให้ใช้งบได้ไม่เกิน 200,000 บาท ควบคุมได้ยาก และมีวิธีการหลบเลี่ยงได้มากมาย ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคเล็กและพรรคใหญ่   รวมทั้งประเด็นการหาเสียง แทนที่ประชาชนจะให้ความสนใจเรื่องนโยบาย หรือความคิดของผู้สมัคร กลับไปสนใจตัวศิลปินดาราที่มาร่วมแสดงมหรสพแทน ทำให้คุณภาพของการเลือกตั้งด้อยลง เมื่อกระบวนการคิดยังไม่ตกผลึก หลังสังคมพยายามชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่สนช.ทั้งหมด อย่างสนช.ท่านนี้อาจจะรู้สึกว่าคิดผิด หรือพูดในนามส่วนตัว ก็ไม่ทราบเจตนาเช่นกัน แต่ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด”



นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณี ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ผ่านการเห็นชอบของ สนช. แล้ว ว่า เรื่องการขยายเวลาออกไป 90 วัน การขยายเวลาการเลือกตั้งมาเป็น 07.00 – 17.00 น. และการตัดสิทธิ์คนที่ไม่ออกไปเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการตัดสิทธิ์เฉพาะกลุ่มการเมืองนั้น ทั้ง 3 ประเด็นไม่น่าจะขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มีแค่ประเด็นการจัดมหรสพ เท่านั้น ที่มองว่าอาจทำให้การเลือกตั้งไม่เที่ยงธรรม ส่วนจะขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในมาตราใด อยู่ระหว่างการพิจารณา

นอกจากนี้ยังมีประเด็นในเรื่องระบบเบอร์ผู้สมัคร ไม่ใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ เป็นประเด็นที่กกต.เคยทักท้วงไปตั้งแต่ชั้นกรธ. ว่าจะทำให้เกิดความสับสนและวุ่นวาย รวมถึงประเด็นเขตอำนาจศาล เรื่องใบแดง ซึ่งต้องพิจารณาว่าประเด็นเหล่านี้จะขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในมาตราใด



“ในการประชุม กกต. จะพิจารณาในวันที่ 6 ก.พ.นี้ หาก กกต.เห็นว่า มีประเด็นเนื้อหาใดที่ขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จะต้องทำความเห็นแย้งกลับไปภายใน 10 วัน โดยจะนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย จะทำให้การประกาศใช้กฎหมายล่าช้าไปอีกประมาณ 1 เดือน แต่ในความเห็นส่วนตัว คิดว่าประเด็นที่กล่าวมาไม่ขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด”

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Food Blog Theme by OlympusThemes.