พลังร่วม…. ขอเคลียร์ ไม่ใช่มาเฟียดอนเมือง

พ.อ มนต์ธรณ์กฤต รูปขจร ที่ปรึกษาบริษัทรักษาความปลอดภัยพลังร่วม จำกัด  เปิดเผยผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซต์ไทยแเลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์ สปริงนิวส์ ทีวีดิจิทัล ช่อง 19 ถึงกรณีถูกพาดพิงว่า  บริษัท ซึ่งประกอบการเป็นผู้ช่วยเหลือพนักงานรักษาความปลอดภัย และดูแลความเรียบร้อยการจัดจราจรรถแท็กซี่ ภายในสนามบิน มีการเรียกเก็บเงินจากผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ลักษณะคล้ายมาเฟียเจ้าของพื้นที่ หลังเมื่อวันที่ 12 ม.ค นางสาวพวงชมนาถ จริยะจินดา ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ทำหนังสือถึง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ ทอท. ขอให้ตรวจสอบการบริษัท รักษาความปลอดภัยพลังร่วม ว่าปฎิบัติตามข้อสัญญาหรือไม่  โดย พ.อ มนต์ธรณ์กฤต ระบุว่า เบื้องต้นขอยืนยันบริษัทพลังร่วม ไม่เคยเข้าไปประกอบธุรกิจที่สนามบินสุวรรณภูมิแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียน และพบบัตรโดยสาร มีปั๊มข้อความ “หากมีเรื่องร้องเรียนให้ติดต่อ พล.อ.อ มนัส รูปขจร กรรมการผู้จัดการบริษัท (บิดา ) ” นั้น   พ.อ มนต์ธรณ์กฤตระบุว่า มีข้อความลักษณะดังกล่าวจริง แต่เพียงในพื้นที่ที่ประกอบการ คือ สนามบินดอนเมืองเท่านั้น ขณะที่กรณี สตง.  ระบุว่า บริษัทพลังร่วม ประกอบการคล้ายมาเฟีย ดอนเมือง  และสื่อนำมาเผยแพร่ตีความ ในเชิงลบ ตนเองขอชี้แจงว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และขณะนี้เกิดผลกระทบต่อบริษัทและครอบครัว ได้รับในความเสียหายต่อการถูกพาดพิง  พร้อมระบุว่า กรณีที่ สตง. ทำหนังสือด่วนไปยัง ทอท. ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของบริษัทพลังร่วม ว่ากระทำไม่เหมาะสมจริงหรือไม่ ตนเองมอง ยังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบข้อเท็จจริง  ให้ชี้แจงรายงานไปเท่านั้นเอง  แต่การที่สื่อนำเสนอออกไปในเชิงลบแล้ว ทำให้บริษัทของตนเอง ตกเป็น ” จำเลยของสังคม ” ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ส่วนประเด็นที่ระบุ ว่า ทาง สตง.สั่งตรวจสอบ การปฎิบัติตามสัญญา ในพื้นที่สนามบินดอนเมืองนั้น ตนเองขอชี้แจงว่า  เบื้องต้น บริษัทเข้าไปดูแลด้าน รปภ. จริง และมีอีกส่วน ที่เกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบรถแท็กซี่ด้วย  ในลักษณะ ทอท. จ่ายเงินจ้างพนักงาน  รปภ.ของพลังงานร่วม  เป็นอีกหนึ่งสัญญา  ในสัญญานั้น ไม่มีระบุ เรื่องการเก็บเงินจริง ทำให้มีประเด็นปัญหาเกิดขึ้น 

” แท็กซี่ที่เข้ามารอคิวเข้ารับผู้โดยสารนั้น นับวันยิ่งมากขึ้น เป็นร้อยคัน  ต่อพื้นที่หน้าชานชาลาที่จำกัด และกีดขวางการจราจร ฉะนั้น  จำเป็นต้องมีพื้นที่พักคอย  โดยบริษัทพลังร่วม ได้รับสัมปทาน ให้ประกอบกิจการ ลานจอดรถอยู่ในพื้นที่หนึ่ง บริเวณหน้าคลังสินค้า ที่อยู่ไกลออกไปอยู่แล้ว บริษัทจึงนำส่วนนี้ มาเป็นพื้นที่พักคอยสำหรับรถแท็กซี่ และเรียกเก็บค่าที่จอดรถตามที่ ทอท.กำหนด คือ 4 ชั่วโมงแรก 15 บาท // 8 ชั่วโมง 25 บาท  12 ชั่วโมง 60 บาท  //12-24 ชั่วโมง 360 บาท  ” พ.อ มนต์ธรณ์กฤต กล่าว 

พ.อ มนต์ธรณ์กฤต ยังกล่าวว่า ตามข่าวที่ระบุว่า มีการเรียกเก็บเงินจากรถแท็กซี่คันละ 10 บาท นั้น  เป็นลักษณะบริษัทเสนอ โปรโมชั่น ในอัตราเหมาจ่ายให้ 10 บาท/ครั้ง  หลังจากต้องสมัครและรับบัตรเป็นสมาชิก ซึ่งในบัตรดังกล่าว ยังสามารถใช้ลดค่าอาหารภายในสนามบินได้   และภายในบัตรจะมีข้อมูลรายละเอียดต่างๆครบถ้วนตรวจาาสอบได้  เพราะฉะนั้น ไม่ใช่การดำเนินการลักษณะมาเฟีย เรียกค่าหัวคิวแท็กซี่แต่อย่างใด 

“คำพูดที่ว่า เข้ามาในสนามบินต้องมาจ่าย  ไม่ใช่นะครับ สมมุติคุณนั่งแท็กซี่มา แท็กซี่มาส่งสนามบิน และมีผู้โดยสารท่านอื่นยืนรออยู่ ก็สามารถขึ้นได้เลย โดยที่แท็กซี่ไม่ต้องจ่าย 10 บาท เพราะถือว่า ไม่ได้เข้าใช้พื้นที่พักคอยซึ่งเป็นลานจอดรถที่เราได้รับอนุญาตให้จัดเก็บเงินได้ ” พ.อ มนต์ธรณ์กฤต กล่าว 

ทั้งนี้  ทอท.ได้ทำสัญญา กับบริษัท พลังร่วม จำกัด อนุญาตให้ประกอบกิจการลานจอดรถยนต์ บริเวณคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ไม่รวมอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 อายุสัญญา 3 ปี โดยมีการขยายสัญญาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีการแก้ไขสัญญาจ้างเอกชน ให้บริการแรงงานภายนอกปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้ช่วยเหลือพนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีการเปลี่ยนชื่อจากบริษัท พลังร่วม จำกัด เป็นบริษัท รักษาความปลอดภัยพลังร่วม จำกัด พร้อมขยายสัญญาจ้างอีก 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2561 โดยเพิ่มเงินค่าจ้างเป็น 277,020,815 บาท