28 ม.ค 61 มีรายงานว่า ทางการท้องถิ่นของประเทศเมียนมาได้ตั้งข้อหาต่อนายนายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ “เกล้า” เกี่ยวกับการกระทำความผิดในประเทศเมียนมาแล้วจำนวน 5 ข้อหา โดยมีการนัดนำตัวขึ้นตัดสินคดีที่ศาลเมืองเชียงตุงในเวลา 10.00 น.วันที่ 7 ก.พ.2561 นี้ต่อไป
นายธวัชชัยได้ให้การกับเจ้าหน้าที่เมียนมาอีกว่า ช่วงที่ น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยวหนีคดีจากประเทศไทยมาอยู่ในพม่า ตนเองไปพบที่ผับแห่งหนึ่งใน จ.ท่าขี้เหล็ก น.ส.ปรียานุช ได้อ้อนวอนให้ตนเองช่วยเหลือ ทำให้ยอมพาหนีไปพักในสวนยางพาราเขตเมืองไฮซึ่งเป็นสวนยางของแฟนสาวของตน แต่เมื่อถูกกดดันหนักจึงพา น.ส.ปรียานุชพร้อมพวก มาปล่อยแถวตลาดบ้านสันทรายไต จ.ท่าขี้เหล็ก จนถูกจับกุมได้ในที่สุด
และในระหว่างที่นายธวัชชัยอยู่ในเมียนมาได้เป็นคนกลางระหว่างเครือข่ายยาเสพติดที่เมืองไฮซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองโกและเมืองแพรกห่างจากท่าขี้เหล็กประมาณ 30-40 กิโลเมตร กับกลุ่มค้ายาเสพติดในประเทศไทย โดยทำหน้าที่ส่งยาเสพติดไปให้เครือข่ายในประเทศไทยจนถึงจุดหมาย ครั้งละ 100,000 เม็ด โดยอาศัยความน่าเชื่อถือโดยไม่ต้องจ่ายเงินสด ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมาเคยทำมาแล้ว 3 ครั้งในเดือน ก.ค.เดือน ส.ค.และเดือน ก.ย.ครั้งหนึ่งมีมูลค่า 1.5 ล้านบาท
ปัจจุบันทางการท้องถิ่นของเมียนมายังไม่ได้มีการประสานมายังด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย แต่มีการแจ้งข่าวในระดับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ของเมียนมามายัง ป.ป.ส.ของประเทศไทยแล้ว ส่วนการจะส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเมียนมาระบุว่ามีแนวโน้มว่าจะไมมีในช่วงนี้ เพราะต้องดำเนินคดีในข้อหาที่ถูกจับกุมล่าสุดในเมียนมาเสียก่อน โดยกำหนดโทษคือกรณีมีอาวุธมีโทษจำคุกอย่างน้อย 3 ปี ข้อหาเสพติดยาเสพติดมีโทษหนักกว่าคือจำคุก 5 ปี และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมีโทษจำคุก 6 เดือนและปรับ 1 ล้านจั๊ต หรือคิดเป็นเงินไทย 2.5 หมื่นบาท จากนั้นเมื่อคดีในเมียนมาสิ้นสุดจึงจะมีขั้นตอนการส่งตัวกลับมายังประเทศไทยต่อไป.
สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง