เปิดชีวิต!! “ครูวีระศักดิ์ ยั่งยืน” จากอดีตรปภ.เดินตามฝัน จนเป็นครูใหญ่โรงเรียนชายแดน


เปิดชีวิต!! “ครูวีระศักดิ์ ยั่งยืน” จากอดีตรปภ.เดินตามฝัน จนเป็นครูใหญ่โรงเรียนชายแดน






วันที่ 16 มกราคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบกับ นายวีระศักดิ์ ยั่งยืน วัย 80 ปี อดีตครูใหญ่โรงเรียนบ้านตาวัง อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนในพื้นที่ ชายแดน ไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์

เรื่องราวชีวิตครูวีระศักดิ์ ยั่งยืน  กว่าจะได้เป็นครู ต้องดิ้นรน ปากกัน ตีนถีบ เพราะเกิดมาฐานะยากจน เป็นเพียงลูกชาวนา อาชีพครูเป็นอาชีพในฝัน กว่าจะได้เป็นครูใหญ่ ต้องเป็น รปภ.ที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเงินศึกษาเล่าเรียนเอง และเมื่อสอบบรรจุครูได้ จึงเลือกลงโรงเรียนพื้นที่ชายแดน ลุยโคลนไปสอนนักเรียน ยอมเสียสละเพื่ออนาคตของชาติ มาติดตามเรื่องราวชีวิตจาก ปากครูวิบาก “วีระศักดิ์ ยั่งยืน”ตำนานครูผู้ทรนง 



ายวีระศักดิ์ ยั่งยืน  เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกชาวนา เกิดเมื่อวันที่19 พ.ค.2482 ที่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 7ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ในวัยเด็กเหมือนกับเด็กทั่วไป ทำไร่ทำนา เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ช่วยพ่อแม่ จนการเรียนจบชั้นประถมศึกษา ที่วัดบ้านดินเเดง ต.หนองบัวบาน ในพ.ศ.2489  จนจบ ป.4 ในพ.ศ.2496 เเละเข้าเรียนต่อ มัธยมที่ ร.ร.รัตนบุรี จนจบม.6 ในสมัยนั้น เเละอยากเรียนต่อ คือตั้งใจอยากเป็นครูไปสอบสมัครเรียนที่สุรินทร์ คือ สอบเข้าเรียน ว.ค.อุบล ในสมัยนั้น มีนักเรียนม.6ที่ เรียนจบม.6 ประมาณ 600 กว่าคน จังหวัดคัดเอา 70 คน ตนสอบได้ที่21 จังหวัดคัดเลือกในโควต้าเเค่18คน เเต่ก็ต้องสละสิทธิ์เพราะฐานะยากจน ขาดเเคลนทุนทรัพย์ จึงไปรับจ้างในเมืองกรุงอยู่หลายปี มีอาชีพ เป็น รปภ. เพื่อเป็นทุนเรียนต่อ เพราะฝันอยากเป็น คุณครู

ต่อมาได้กลับบ้านเกิด เห็นเพื่อนทำการทำงาน เเละอยากเป็นคุณครู จึงสมัครเป็น ครูช่วยสอน ขณะเดียวกันก็สมัครสอบวิชาชุดครูไปด้วย จนสอบได้วิชาครู พ.ก.ศ. จึงได้สอบบรรจุครูกับเขา ได้บรรจุเป็นครูปลายปี 2514 บรรจุครั้งอยู่ที่โรงเรียนบ้านจบก ต.สะเดา อ.สังขะจ.สุรินทร์ในสมัยนั้น



ประกอบเวลาต่อมาทางตำบลสะเดาได้เเยกเป็นตำบลใหม่คือ ต.ตาวัง เเละย้ายมาเป็นครูใหญ่ที่ร.ร.บ้านตาวัง ในเดือนพฤษภาคม2519 มีครู2ท่านเท่านั้น จากอาคารเรียนหลังคามุ่งด้วย หญ้าได้ยกระดับเป็นอาคารชั้นเดียวจน และขยับขยายเป็น 2 ชั้น มีระดับครูน้อยมาช่วยสอนเกือบทุกภาคมาอาสาสอนถือว่าสมัยนั้นลำบากพอสมควร   จากทางเกวียนต้องลุยโคลนไปสอนนักเรียนหลายสิบปี จนเป็นลูกรังจากลูกรังสู่ลาดยาง หาบน้ำคุอาบ ฯลฯจนเกษียณอายุราชการ

หลังเกษียณราชการ ได้อยู่กับครอบครัวอย่างเต็มที่ ได้ดูเเลหลานตามประสาคนวัยเกษียณ ต่อมาภรรยาล้มป่วยด้วยโรงมะเร็งเเละเสียชีวิต สมาชิกในครอบครัวลูกๆที่ต่างถิ่นฐานทำงาน จึงให้ลูกชายคนเล็กที่ร่างกายพิการ ซึ่งทำงานเปิดร้านซ่อมทีวีทีชลบุรีอยู่เป็นเพื่อนพ่อ เป็นหูเป็นตาเเทนพี่ๆที่ทำงานอยู่ในเมืองใหญ่รับซ่อมทั่วไปในทุกหมู่บ้าน อาหารการกินได้การดูเเลจากลูกชายเเละลูกสะใภ้  กิจวัตรประจำวันที่ทำอย่างเสมอคืออ่านหนังสือ เเละดูทีวีข่าวสารบ้านเมือง ช่วงเกษียณใหม่ๆก็ปลูกผักเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ตามอรรถภาพเเต่ตอนนี้อายุย่าง 80 ปี เเล้วหมดกำลังวังชาให้ลูกให้หลานสานต่อ

เครดิต : ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว/สุรินทร์

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Food Blog Theme by OlympusThemes.