วอนรัฐฯ เหลียวแล “ครอบครัวครู” ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไม่สงบในภาคใต้
นายจิรพงศ์ เล็มมณี ลูกชายของ ครูจำนง เล็มมณี ครู คศ.2 โรงเรียนบ้านปาแตรายอ ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา เดินทางไปดูห้องทำงานของคุณพ่อ เพื่อระลึกถึงสถานที่ทำงานของคุณพ่อ เนื่องในวันครู 16 ม.ค.61 นี้ หลังจากที่คุณพ่อต้องจากไป หลังจากเมื่อวันที่ 11 ม.ค.50 ซึ่งก่อนจะเป็นวันครูเพียง 5 วัน ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ไล่ประกบยิงและเผา ครูจำนง เล็มมณี อายุ 48 ปี เสียชีวิตบนถนนสาย 4060 ตะโล๊ะหะลอ – กะพ้อ บ้านพะปูเง๊าะ หมู่ที่ 4 ต.เกะรอ ขณะขับรถเก๋งส่วนตัว ยี่ห้อเฟียต สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ก-1756 ยะลา กลับจากโรงเรียน
หลังจากนั้น นายจิรพงศ์ เล็มมณี ได้เดินทางกลับบ้านเพื่อไปจุดธูปไหว้ภาพคุณพ่อ เพื่อให้คุณพ่อได้ไปสู่สุขคติและช่วยมาปกป้องช่วยเหลือลูกๆ ให้พ้นภัยและมี ความเป็นอยู่ที่ดี หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตไปครอบครัวมีความเดือดร้อน ไม่มีงานทำ ขาดเสาหลักในการให้คำปรึกษาและจุนเจือสนับสนุนทางด้านการศึกษาให้ลูกที่มีอยู่ 2 คนด้วย
ส่วนนางพร เล็มมณี วัย 80 ปี คุณแม่ของของครูจำนง เล่าให้ฟังว่า หลังจากครูจำนง ลูกชายเสียชีวิตจากสถานการณ์ ทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ยากลำบากมาก ปัจจุบัน ตนอาศัยอยู่กับ นายเสวต เล็มมณี วัย 90 ปี สามี เพียง 2 คน ค่ารักษารักษาที่เคยเบิกได้ก็ขาดหายไป ชีวิตในบั้นปลาย ซึ่งมีอายุมาก มีโรคต่างๆมารุมเร้าอย่างต่อเนื่อง การไปรับยา ก็ต้องเดินเท้าไป เนื่องจากไม่มีค่าจ้างรถ ความเป็นอยู่ลำบากมาก เนื่องจากมีโรครุมเร้าและการประกอบอาชีพก็ทำไม่ได้แล้วเพราะชราภาพ ถึงแม้ว่าระยะหลัง มีรายได้จากการให้เดือนละ 4,500 บาทก็ตาม ส่วนหลาน 2 คน ก็ได้แยกย้ายไปพักอาศัยในตัวเมืองยะลา เพื่อดิ้นรนในการทำมาหากินช่วยครอบครัวของเขาเพื่อความอยู่รอด
นางพร ยังกล่าวอีกว่า หลังจากที่ครูจำนง ลูกชายเสียชีวิต ก็ไม่มีหน่วยงานใดมาสอบถามถึงความเป็นอยู่ของตนและสามีเลย มีวันนี้เป็นครั้งแรก ที่สื่อมวลชนบางสำนักมาสอบถามชีวิตความเป็นอยู่หลังจากต้องสูญเสียลูกชาย ที่ทุ่มเททำงานราชการมาทั้งชีวิตเพื่อสร้างเด็กและเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่ดี มีความรู้ ในอนาคต ตอนนี้อายุมากแล้ว สุขภาพก็ไม่ดี จึงขอให้ทางราชการช่วยเหลือหลานทั้งสองคน คือ นายจิรพงศ์ อายุ 31 ปี และนายวีรวงศ์ เล็มมณี อายุ 21 ปี ให้ได้มีการศึกษาและมีอนาคตที่ดี ก็พอแล้ว โดยเฉพาะ นายจิรพงศ์ อยากให้ได้เป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน(อส)เพื่อเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวด้วย
เช่นเดียวกับนายจิรพงศ์ เล็มมณี ลูกชายครู จำนง กล่าวว่า หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตไป ชีวิตครอบครัวเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปในทางเลวลงเป็นอย่างมาก ไม่มีที่ปรึกษา ไม่มีคนที่จะมาดูแลความเป็นอยู่ให้กับลูกๆ และยายกับตา มีความเดือดร้อนมาก ตนเคยไปสมัครเป็น อส. แต่ไม่ผ่านการทดสอบร่างกาย ทำให้ตนเองหมดใจ และไม่เคยไปของานจากราชการเลย ตนคิดว่า หากทางราชการรับตนเป็น อส.แล้ว จะสามารถที่จะเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัวและน้องชายได้ ซึ่งตนจะไม่เรียกร้องใดจากทางราชการอีกต่อไป
สำหรับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจ.สงขลา ได้คร่าชีวิตครูไป จำนวน 184 ราย ทางราชการรับรองเหตุ จำนวน 180 ราย ครูบาดเจ็บ จำนวน 126 ราย พิการทุพลภาพ จำนวน 11 ราย
ด้านนายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ทางสมาพันธ์ฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ช่วยดำเนินการตามข้อเสนอของครูและครอบครัวครู ที่ได้รับผลกระทบ ถึงเสียชีวิตและพิการทุพลภาพ ให้จ่ายเงินคนละ 4 ล้านบาท ซึ่งได้เรียกร้องมาตั้งแต่ปี 2556 ขณะนี้เรื่องยังอยู่ที่ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หากรัฐบาลได้จัดงบประมาณมาให้ครอบครัวในส่วนนี้ คนละ ล้านบาท จำนวน 180 ราย จะเป็นวงเงินเพียง 514 ล้านบาทเท่านั้น
Cr. อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา
สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง