ตร.เรียกสอบปากคำ 12 ราย คดี “นิชา” เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่มาออกหมายจับแน่

พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดความคืบหน้าคดี น.ส.นิชา เอียดธนะไพบูลย์ ผู้เสียหายจากการถูกขโมยบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร จนถูกจำคุกเป็นวันลา 2 วันว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อให้เกิดความชัดเจนและเห็นใจผู้เสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบปากคำแล้ว 12 ราย และหากไม่มาตามหมายเรียกก็จะทำการออกหมายจับต่อไป

ขณะที่ น.ส.นิชา ผู้เสียหายนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะเชิญตัวมาให้ปากคำเกี่ยวกับกรณีบัตรประชาชนว่าหายไปได้อย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบว่ามีการแจ้งบัตรหายทั้งสิ้น 3 ครั้ง แต่การแจ้งบัตรหายไม่จำเป็นจะต้องแจ้งกับตำรวจเท่านั้น แต่สามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่เขตหรืออำเภอก็ได้ ส่วนการเปิดบัญชีธนาคารนั้น เจ้าหน้าที่ไม่ทราบข้อมูลเนื่องจากอยู่ในความรับผิดชอบของธนาคาร

ขณะเดียวกัน นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ระบุว่า ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีหลักเกณฑ์ในการดำเนินการกับธนาคารเกี่ยวกับการเปิดบัญชีเงินฝากอยู่แล้ว ซึ่งหากมีการกระทำผิดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ทางธนาคารก็จะถูกปรับเงินจำนวน 1 ล้านบาท หรือถูกปรับวันละ 10,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้ทำการเข้าตรวจสอบธนาคาร จำนวน 4 ธนาคาร และ ในวันที่ 15 มกราคมนี้ จะเข้าตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 3 ธนาคาร เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับขั้นตอนการเปิดบัญชีเงินฝากว่ามีทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องหรือไม่

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *