“อนุสรณ์” จี้ปลดล็อคพรรคการเมือง ชี้สังคมเห็นชัด คสช.-นายกฯ วางแผนสืบทอดอำนาจ


“อนุสรณ์” จี้ปลดล็อคพรรคการเมือง ชี้สังคมเห็นชัด คสช.-นายกฯ วางแผนสืบทอดอำนาจ






นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้อง คสช.และรัฐบาลเนื่องในวันรัฐธรรมนูญว่า ขอให้ คสช.รัฐบาลและเครือข่ายแม่น้ำ 5 สายพิจารณาทบทวนและยกเลิกคำสั่งและประกาศที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งผ่านประชามติเป็นความเห็นชอบของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะ การปลดล็อคพรรคการเมือง หรือการห้ามจัดกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งอาจกระทบต่อการคุ้มครองสิทธิของประชาชน



ทั้งนี้ ประกาศหรือคำสั่งเช่นการห้ามจัดกิจกรรมทางการเมือง ห้ามชุมนุมทางการเมือง ซึ่งน่าจะเป็นการขัดต่อการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน รวมถึงฝ่ายการเมือง เรื่องนี้ต้องพิจารณาและยกเลิกได้แล้ว การอ้างว่ายังไม่สามารถปลดล็อคได้เพราะสถานการณ์บ้านเมืองอาจมีปัญหาในบางจุด บางพื้นที่ ขอเรียนว่าวันนี้ถ้าเราเริ่มต้นด้วยความรัก ความเชื่อมั่นและไว้วางใจ ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าเริ่มด้วยความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ปัญหาก็จะไม่จบ

ดังนั้นการกลับคืนสู่ประชาธิปไตย และการใช้รัฐธรรมนูญ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ฝ่ายการเมืองก็ควรต้องมีเวลาในการเตรียมตัว เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายลูกและรัฐธรรมนูญ การกลับคืนสู่ประชาธิปไตยเปรียบเหมือนร่มไม้ใหญ่ของประเทศที่คนจะสร้างสันติสุขร่วมกัน ไม่อยากให้รัฐบาลมองเป็นไร่เลื่อนลอย ผลัดไปเรื่อย มีปฏิญาณโตเกียวก็ประกาศว่าจะเลือกตั้งปี 59 พิธีปฏิญาณนิวยอร์ค ก็ประกาศว่าจะมีเลือกตั้งปี 60 พอไปพูดที่ตรังก็บอกว่าเลือกตั้งมีแน่ แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ การพูดลักษณะแบบนี้มองว่าเป็นการทำลายความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดความหวาดระแวงให้กับทุกภาคส่วน



นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ขณะนี้ คสช.ทำทุกอย่างเพื่อเป็นการสืบทอดอำนาจนั้น ตั้งแต่วันแรกที่มาทำหน้าที่จนถึงปัจจุบัน มีการวางแผนมีการเตรียมการ มีกระบวนการเป็นขั้นตอน เหมือนจิ๊กซอร์แต่ละตัวที่วางไว้เพื่อเป็นการสืบทอดอำนาจ แม้แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีระยะแรกปฏิเสธเสียงแข็งว่าจะไม่เข้าสู่การเมือง แต่เมื่อเวลาผ่านไปปฏิเสธน้อยลง บางครั้งแทบไม่ปฏิเสธเลย

ส่วนการสรรหา กกต.ชุดใหม่บางคนเคยขึ้นเวทีพันธมิตร นั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เวลานี้ทุกฝ่ายควรให้กำลังใจกับทุกภาคส่วนที่จะเข้ามา สิ่งสำคัญบางครั้งตั้งข้อสงสัยไม่ได้ ทั้งนี้ กกต. มีหน้าที่ในการทำงานด้วยความสุจริตยุติธรรม เมื่อวันนี้ยังไม่ได้ทำงานทุกคนควรให้โอกาส และผลงานจะเป็นสิ่งการันตีว่าวิธีคิดและจุดยืนเป็นอย่างไร

Cr : Springnews

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Food Blog Theme by OlympusThemes.