สุดยอดไฮเทค โรงเรียนในจีนเริ่มใช้ระบบ ‘สแกนใบหน้าจ่ายค่าอาหาร’ สอดรับนโยบาย ‘สังคมไร้เงินสด’


สุดยอดไฮเทค โรงเรียนในจีนเริ่มใช้ระบบ ‘สแกนใบหน้าจ่ายค่าอาหาร’ สอดรับนโยบาย ‘สังคมไร้เงินสด’






ดูเหมือนว่าประเทศจีนจะเข้าใกล้กับ “สังคมไร้เงินสด” อย่างเต็มรูปแบบ เพราะล่าสุดมีรายงานว่าโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในประเทศจีน
ได้ริเริ่มเทคโนโลยีการสแกนใบหน้าเพื่อชำระเงินค่าอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน แทนการใช้เงินสดหรือการแลกบัตร แถมยังประหยัดเวลาเพราะไม่ต้องรอเงินทอนอีกต่างหาก

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่าโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง ในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้ติดตั้งเครื่องสแกนใบหน้าเพื่อชำระเงินภายในโรงอาหารของโรงเรียน 
ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้เด็กนักเรียนไม่ต้องใช้เงินสดในการซื้ออาหาร หรือไม่จำเป็นต้องแลกบัตรใดๆ เพียงแค่เดินไปยืนอยู่หน้าเครื่องสแกนเป็นเวลา 1 นาที ระบบก็จะรวบรวมข้อมูลเพื่อทำรายการชำระเงิน นอกจากนี้นักเรียนยังสามารถสั่งอาหารล่วงหน้า ผ่านทางแอปพลิเคชั่น WeChat โดยมาสแกนใบหน้าเพื่อจ่ายเงินที่หน้าร้านได้อีกด้วย



นอกจากเทคโนโลยีการสแกนใบหน้าเพื่อชำระค่าอาหาร จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักเรียนในโรงเรียนแล้ว 
ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครองของนักเรียนอีกต่างหาก เนื่องจากในแต่ละสัปดาห์ข้อมูลการซื้ออาหารกลางวันของนักเรียนแต่ละคนจะถูกส่งไปยังผู้ปกครอง 
เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบข้อมูลโภชนาการอาหารของลูกๆ แต่ละคนในขณะที่อยู่ที่โรงเรียน ว่าควรจะเพิ่มหรือลดอะไรเพื่อให้นักเรียนมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น

นอกจากการใช้ระบบสแกนใบหน้าจ่่ายค่าอาหารในโรงเรียนแล้ว Alibaba เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซจีนเริ่มทดสอบเทคโนโลยีจดจำใบหน้า (facial recognition) มาใช้ในเชิงธุรกิจแล้วกับ KFC สาขาเมืองหางโจว เพียงลูกค้ากดสั่งเมนูที่บริเวณทางเข้า จากนั้นเข้าสู่เครื่องสแกนใบหน้า และระบบจะทำการจับคู่ใบหน้าจากภาพถ่ายที่ลงเบียนไว้ ก่อนจะหักเงินผ่านบัญชี Alipay ซึ่งทาง Yum China บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ KFC นั้นระบุว่าเป็นร้านฟาสต์ฟู้ดต้นแบบแห่งแรกของโลกที่มีการใช้ระบบดังกล่าว



ทั้งนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีการสแกนใบหน้านั้นได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้กับระบบสาธารณูปโภคในประเทศจีนอย่างมาก ซึ่งมีรายงานว่าระบบดังกล่าวมีใช้แพร่หลายไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำสาธารณะ, สถานีรถไฟ รวมทั้งสนามบิน โดยไม่นานมานี้ สายการบิน China Southern Airlines ก็ได้นำระบบจดจำใบหน้ามาใช้แทน boarding pass เพื่อยืนยันตัวตนก่อนขึ้นเครื่องเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ มีรายงานว่าตำรวจในเมืองชิงเต่าสามารถทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ถึง 25 รายจากงานเทศกาลเบียร์นานาชาติชิงเต่า ซึ่งมาจากระบบสแกนใบหน้าบริเวณทางเข้างานนั่นเอง

Cr.www.spokedark.tv,เว็บแบไต๋

สุโสมณี พานทอง คือ 34 และเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมครอบครัว เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2554 เธอเป็นเจ้าของและดำเนินงานด้านการปฏิบัติของเธอเองและช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านเกิดของเธอ เธอแต่งงานโดยไม่มีลูก แต่สนุกกับการใช้เวลาให้กับเมืองของเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Food Blog Theme by OlympusThemes.